การตรวจ STD / STI
การตรวจ 11 STI คืออะไร? ตรวจอะไรบ้าง?
สวัสดีครับ วันนี้หมออยากจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับ “การตรวจ 11 STI” ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ หรือเคยมีคนแนะนำให้ตรวจ แต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร ตรวจหาโรคอะไรบ้าง และควรตรวจเมื่อไหร่
การตรวจ 11 STI หมายถึง การตรวจหา “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” (Sexually Transmitted Infections – STI) ทั้งหมด 11 ชนิด โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า RT-PCR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถตรวจหาเชื้อจาก “ปัสสาวะ” หรือ “สารคัดหลั่ง” ได้อย่างแม่นยำมากครับ

โรคที่สามารถตรวจได้จากการตรวจนี้ ได้แก่
-
หนองในเทียม – Chlamydia trachomatis
-
แผลริมอ่อน – Haemophilus ducreyi
-
เริมชนิดที่ 1 – Herpes simplex virus type 1
-
เริมชนิดที่ 2 – Herpes simplex virus type 2
-
หนองในเทียม – Mycoplasma genitalium
-
หนองในเทียม – Mycoplasma hominis
-
หนองในแท้ – Neisseria gonorrhoeae
-
ซิฟิลิส – Treponema pallidum
-
พยาธิช่องคลอด – Trichomonas vaginalis
-
หนองในเทียม – Ureaplasma parvum
-
หนองในเทียม – Ureaplasma urealyticum
-
หลังจากตรวจแล้ว หมอจะสามารถวิเคราะห์ผลและให้คำแนะนำเรื่องการรักษาได้ตรงจุดครับ ซึ่งสำคัญมาก เพราะบางโรคอาจไม่มีอาการชัดเจน แต่สามารถแพร่เชื้อได้
ตรวจบ่อยแค่ไหนดี?
หากใครมี พฤติกรรมเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยเป็นประจำ หรือเคยมีประวัติการติดเชื้อมาก่อน หมอแนะนำ ว่า ควร ตรวจเป็นประจำ หรือ ตรวจตามอาการที่สงสัย เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวเองและคนที่เรารักครับ
สรุปจากหมอ
การตรวจ 11 STI เป็นการตรวจที่ครอบคลุมและมีความแม่นยำสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการตรวจเช็กสุขภาพทางเพศ หรือมีความเสี่ยงจากพฤติกรรมทางเพศครับ
หากพบเชื้อ ก็ไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ และยิ่งตรวจเจอเร็ว ก็ยิ่งรักษาได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้นครับ

