PrEP / PEP
การเริ่มใช้ PrEP และ PEP
สำหรับคนไข้ใหม่ หากต้องการรับยา PrEP หรือ PEP จำเป็นต้องเข้ารับการ ตรวจเลือดเบื้องต้น และรับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ยาจะปลอดภัยและเหมาะสมกับคุณ หลังจากนั้นจึงสามารถจ่ายยาให้ไ ด้ครับ

PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) คืออะไร?
PrEP คือการกินยาต้านไวรัส (Antiretroviral) ล่วงหน้า เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV สำหรับคนที่ยังไม่ติดเชื้อ แต่มีความเสี่ยงสูง เช่น
-
มีคู่นอนหลายคน
-
ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย
-
คู่รักมีเชื้อ HIV
รูปแบบการใช้ PrEP
PrEP แบบรายวัน (Daily PrEP)
-
ทานวันละ 1 เม็ด เวลาเดียวกันทุกวัน
-
ควรเริ่มทาน อย่างน้อย 7 วันก่อนวันที่มีความเสี่ยง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
-
หากยังมีความเสี่ยง ควรทานต่อเนื่องทุกวัน
-
หากต้องการหยุด ให้ทานต่ออีก 7 วันหลังความเสี่ยงครั้งสุดท้าย
-
ก่อนเริ่มยา แพทย์จะตรวจ HIV, การทำงานของไตและตับ, ไวรัสตับอักเสบบี
-
โดยทั่วไปจะจ่ายยา ครั้งละ 3 เดือน และนัดตรวจติดตามเป็นระยะ เช่น ตรวจ HIV, โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการทำงานของไต
PrEP แบบเป็นครั้งคราว (On-Demand PrEP / สูตร 2-1-1)
-
ทาน 2 เม็ดก่อนมีความเสี่ยง 2–24 ชั่วโมง
-
ทานต่ออีกวันละ 1 เม็ด เป็นเวลา 2 วัน
-
ตัวอย่าง: หากมีความเสี่ยงในคืนวันจันทร์
-
ทาน 2 เม็ดในเช้าวันจันทร์
-
ทานต่ออีก 1 เม็ดในวันอังคารและวันพุธ
-
-
หากมีความเสี่ยงต่อเนื่องหลายวัน ให้ทานต่อวันละ 1 เม็ดไปเรื่อยๆ จนถึง 2 วันหลังความเสี่ยงครั้งสุดท้าย แล้วจึงหยุดยา
PEP (Post-Exposure Prophylaxis) คืออะไร?
PEP คือยาต้าน HIV แบบ ฉุกเฉิน ใช้เมื่อมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV แล้ว เช่น การสัมผัสสารคัดหลั่งที่มีเชื้อไวรัส
-
ต้องเริ่มทาน ภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีความเสี่ยง
-
ทานต่อเนื่อง เป็นเวลา 30 วัน
-
การเริ่มใช้เร็วที่สุดจะช่วยเพิ่มโอกาสป้องกันการติดเชื้อ


การตรวจเลือดเบื้องต้นสำหรับ PrEP และ PEP
ก่อนเริ่มใช้ยา แพทย์จะแนะนำตรวจเลือดรายการดังนี้
-
HIV Ag/Ab
-
Anti-TP (โรคซิฟิลิส)
-
Anti-HCV (ไวรัสตับอักเสบซี)
-
HBsAg (ไวรัสตับอักเสบบี)
-
Anti-HBs
-
ALT (SGPT)
-
Creatinine / eGFR
หมายเหตุ: การตรวจเลือดวันนี้เป็นเพียง การคัดกรองเบื้องต้น
ผลตรวจและระยะเวลาที่ควรตรวจซ้ำ
หากคุณมีพฤติกรรมเสี่ยงในช่วง ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะภายใน 1 เดือน ผลตรวจบางอย่างอาจ ยังไม่สามารถตรวจพบเชื้อได้ เนื่องจากร่างกายอาจยังไม่สร้างแอนติบอดี หรือปริมาณไวรัสยังไม่มากพอ
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ตรวจซ้ำ:
-
1 เดือนหลังความเสี่ยง
-
3 เดือนหลังความเสี่ยง
-
6 เดือนหลังความเสี่ยง

