
การขลิบอวัยวะเพศชายเป็นกระบวนการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับการตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ (foreskin) ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่คลุมปลายองคชาต (glans) ของอวัยวะเพศชาย
ในหลายวัฒนธรรมและชุมชนทั่วโลก การขลิบมักจะทำในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังคลอด อย่างไรก็ตาม บางคนอาจเลือกเข้ารับการขลิบในภายหลังด้วยเหตุผลส่วนบุคคล วัฒนธรรม หรือเหตุผลทางการแพทย์
ที่ Menness Clinic เราให้ข้อมูลสำคัญเพื่อช่วยให้ผู้ชายเข้าใจถึงผลกระทบและประโยชน์ทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการขลิบอวัยวะเพศ เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของตนเองอย่างรอบรู้
ใครบ้างที่ควรขลิบอวัยวะเพศ?
วันนี้คุณหมอจะมาตอบคำถามที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับ การขลิบอวัยวะเพศ — ใครบ้างที่ควรทำ เวลาเหมาะสมที่สุด ประโยชน์ และวิธีดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด
1. ใครบ้างที่ควรขลิบอวัยวะเพศ และควรทำเมื่อใด?
ในความเป็นจริง การขลิบอวัยวะเพศไม่ได้จำเป็นสำหรับผู้ชายทุกคน แต่ในบางกรณีอาจเหมาะสม ดังนี้:
-
เด็กหรือผู้ใหญ่ที่มีปัญหาการดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ทำให้ปัสสาวะลำบาก
-
ผู้ที่มีหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศตึง (phimosis) ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบหรือการติดเชื้อซ้ำ ๆ
-
ผู้ที่มีหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศยาวเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมของสารสเปิร์ม (smegma) และกลิ่นไม่พึงประสงค์
สำหรับช่วงอายุที่เหมาะสม ผู้ปกติส่วนใหญ่เลือกให้เด็กเข้ารับการขลิบตั้งแต่อายุยังน้อย อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดสามารถทำได้ทุกวัย ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและความพร้อมของแต่ละบุคคล


ระบบทางเดินปัสสาวะและสุขภาพทางเพศ
-
ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทั้งต่อตัวเองและคู่ของตน
-
ทำความสะอาดและรักษาความสะอาดได้ง่ายขึ้น
-
ลดความเสี่ยงต่อภาวะบางอย่าง เช่น การอักเสบเรื้อรัง
-
เพิ่มความมั่นใจเรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคลและชีวิตประจำวัน
3. เทคนิค “เลเซอร์เบลด” คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร?
ปัจจุบัน วิธีการขลิบอวัยวะเพศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เทคนิคเลเซอร์เบลด (Laser Blade Circumcision) วิธีนี้ใช้เครื่องมือศัลยกรรมเฉพาะทางเพื่อทำการผ่าตัดอย่างแม่นยำและได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม จากนั้นแผลจะถูกปิดด้วยไหมละลาย วิธีนี้เจ็บน้อย โดยความไม่สบายส่วนใหญ่จะเกิดเฉพาะตอนฉีดยาชาก่อนการผ่าตัดเท่านั้น
ประโยชน์ของเทคนิคเลเซอร์เบลด:
-
แผลหายเร็วขึ้น
-
แผลเรียบและสวยงามโดยไม่เกิดความบิดเบี้ยว
-
ควบคุมปริมาณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศที่ตัดได้อย่างแม่นยำ
-
ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลปริหรือเป็นแผลเป็นแข็งนูน ซึ่งอาจเกิดได้กับเครื่องมือขลิบแบบดั้งเดิม
4. ระยะเวลาการฟื้นตัวนานเท่าใด?
ในกรณีส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องพักในโรงพยาบาล หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านและทำกิจวัตรประจำวันได้ แต่ ต้องดูแลแผลอย่างเหมาะสม
การดูแลแผลหลังการขลิบ:
-
รักษาแผลให้สะอาดและแห้ง ใช้น้ำเกลือตามคำแนะนำของแพทย์ หลีกเลี่ยงการโดนน้ำโดยตรงใน 5–7 วันแรก หรือจนกว่าแพทย์อนุญาต
-
สวมเสื้อผ้าที่หลวม เพื่อลดแรงเสียดสีและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
-
รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ครบถ้วน รวมทั้งยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ และยาอื่น ๆ
-
งดกิจกรรมทางเพศจนกว่าแผลจะหายสนิท โดยปกติประมาณ 3–4 สัปดาห์
-
หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกกำลังกายหนักอย่างน้อยใน 1–2 สัปดาห์แรก
-
นัดติดตามผลทุก 1–2 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบการหายของแผลและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

สรุป
-
การขลิบอวัยวะเพศ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศหรือผู้ที่ต้องการขลิบเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสุขอนามัย สามารถปรึกษาแพทย์ได้ โดยเฉพาะ เทคนิคเลเซอร์เบลด จะทำให้การขลิบง่ายขึ้น ช่วยให้แผลหายเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม
ประเภทการขลิบอวัยวะเพศที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
การขลิบด้วยเครื่องเย็บ
(Stapler Circumcision)
เป็นวิธีการขลิบอวัยวะเพศโดยใช้ เครื่องเย็บไทเทเนียม สำหรับการตัดหนังหุ้มและเย็บปิดแผล
เครื่องมือขั้นสูงนี้ช่วย ควบคุมเลือดทันที ทำให้เลือดออกน้อยมาก และแผลเกือบไม่มีเลือด
การผ่าตัดทำได้ รวดเร็ว, ฟื้นตัวเร็ว, มีประสิทธิภาพสูง, เจ็บน้อย และให้ผลลัพธ์น่าพอใจ


การขลิบด้วยมีดไฟฟ้า
(Electric Blade Circumcision)
การขลิบด้วยมีดไฟฟ้าเป็นวิธีขั้นสูงที่ใช้ ใบมีดร้อน ในการขลิบอวัยวะเพศ แตกต่างจากวิธีดั้งเดิมที่ใช้มีดผ่าตัด
โดยมีดไฟฟ้าจะทำการกรีดเนื้อส่วนเกินพร้อมกับการตัด ทำให้ เลือดออกน้อยลงและแผลหายเร็วขึ้น เทคนิคสมัยใหม่นี้ช่วยให้การขลิบ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เจ็บน้อยลง และ ฟื้นตัวเร็วกว่า การขลิบแบบดั้งเดิม
การขลิบแบบไร้รอยต่อ
(Seamless Circumcision)
เทคนิคพิเศษเฉพาะที่ Menness เท่านั้น
เป็นวิธีขั้นสูงที่ออกแบบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทั้งด้าน ความสวยงามและการใช้งาน ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปัสสาวะของเราจะใช้ ไหมละลาย เย็บอย่างประณีตเพื่อให้ ปมเย็บมองไม่เห็น ทำให้แผลเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ
เทคนิคนี้ช่วยเพิ่มความ แม่นยำ ความสวยงาม และรูปลักษณ์เป็นธรรมชาติ ของอวัยวะเพศ ทำให้วิธีการของเราแตกต่างและถือเป็น มาตรฐานสูงสุดในการขลิบอวัยวะเพศ


การผ่าตัดแก้ไขการขลิบอวัยวะเพศ
(Circumcision Revision Surgery)
การผ่าตัดแก้ไขการขลิบอวัยวะเพศเป็น วิธีเฉพาะทาง ที่ออกแบบมาเพื่อ แก้ไขหรือปรับปรุงการขลิบเดิม การผ่าตัดนี้สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ เช่น การปรับปรุงความสวยงาม, ภาวะแทรกซ้อนทางการแพทย์ เช่น ฟีโมซิส (phimosis) และการติดกันของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ (adhesions) รวมถึงการแก้ไขแผลเป็นจากการขลิบเดิมที่ไม่เรียบหรือไม่สม่ำเสมอ
ด้วยการผ่าตัดแก้ไขการขลิบ ผู้ป่วยสามารถ ได้ผลลัพธ์ด้านความงามที่ดีขึ้น และ แก้ไขปัญหาทางการแพทย์ ที่เกิดจากการขลิบเดิม
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการขลิบอวัยวะเพศ
เพื่อให้การขลิบอวัยวะเพศ ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้ป่วยควรปฏิบัติตาม แนวทางการเตรียมตัวดังต่อไปนี
1. ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
-
แจ้งแพทย์เกี่ยวกับ โรคประจำตัว, ยาที่รับประทานเป็นประจำ, หรือ ประวัติแพ้ยา
-
ปรึกษาและเลือก เทคนิคการขลิบที่เหมาะสม กับสภาพผิวและความต้องการส่วนบุคคล
2. ตรวจร่างกายเบื้องต้น
-
แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจ เลือด หรือ วัดความดัน ก่อนการผ่าตัด
-
การติดเชื้อในบริเวณอวัยวะเพศต้อง รักษาให้หายสนิท ก่อนเข้ารับการขลิบ
3. ทำความสะอาดร่างกายก่อนการผ่าตัด
-
อาบน้ำและทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้สะอาดก่อนมาที่คลินิก
-
หลีกเลี่ยงการโกนด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือบาดเจ็บของผิวหนัง
4. เตรียมเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว
-
สวมกางเกง หลวมและสบาย เพื่อไม่กดทับบริเวณแผลหลังผ่าตัด
5. วางแผนการฟื้นตัว
-
หลังการผ่าตัด งดการออกกำลังกายหนัก และ งดกิจกรรมทางเพศ ประมาณ 3–4 สัปดาห์
-
จัดสรรเวลาพักผ่อนเพียงพอเพื่อให้แผลหายสนิท
-
สำหรับผู้ป่วยต่างชาติ จำเป็นต้องพำนักในกรุงเทพฯ อย่างน้อย 2 สัปดาห์